เสน่ห์โรงแรมไทย พักมณเฑียร สุรวงศ์ พร้อมทานข้าวมันไก่ตำนานระดับมิชลิน
ถ้าพูดถึงโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ หลาย ๆ
ท่านจะต้องคุ้นเคยกับเอกลักษณ์ความเป็นไทยอันโดดเด่นและชื่อเสียงของอาหารสไตล์ไทย-จีน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนูข้าวมันไก่มณเฑียร วันนี้เราได้มีโอกาสมาพักผ่อนที่นี่
ถือเป็นโอกาสเหมาะที่เราได้เพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนใจกลางเมืองที่แฝงไปด้วยความเป็นไทยเดิมบวกสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
และได้มาทานเมนูอาหารระดับมิชลินของที่นี่เลยครับ
เข้ามาล็อบบี้เพื่อเช็คอินกันก่อน
โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA Plus+
ดังนั้นแขกที่เข้าพักสามารถมั่นใจในความสะอาดและปลอดภัยได้
โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ เปิดให้บริการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2510 และได้ปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2562 บรรยากาศภายในโรงแรมเน้นความเป็นไทยและสไตล์เรโทร ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัยออกมาได้อย่างลงตัว ภายใต้คอนเซ็ป “Revival of the Original” ที่ตั้งใจนำเรื่องราวในอดีตอันรุ่งเรืองกลับมาบอกเล่าใหม่ แถมอาคารออกแบบรูปทรงเรขาคณิต นับเป็นสถาปัตยกรรมแนว modernism ยุคแรก ๆ ของกรุงเทพฯ ตั้งแต่ชั้น 1 จนถึงชั้น 17 มีความงดงามด้วยงานศิลปะและการออกแบบที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิม
ในทุก ๆ ชั้นจะมีการตกแต่งบริเวณทางเดินด้วยพรม มีโทนสีและรูปภาพบริเวณผนังแตกต่างกันไป มีห้องพักทั้งหมดจำนวน 500 ห้อง
ห้องพักของเราเป็นประเภท Premier Double มีพื้นที่ 32 ตารางเมตร ภายในห้องพักออกแบบผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับความร่วมสมัย
ภายในห้องกว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันรวมถึงเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวในปัจจุบัน เช่นนาฬิกาข้างหัวเตียงมีฟังก์ชัน Wireless Charger ที่ชาร์จแบตมือถือได้แบบไร้สาย ปลั๊กไฟรองรับ USB charger ได้เลย ไม่ต้องเอา Adaptor มา แถมสมาร์ททีวีซัมซุงจอใหญ่ 55 นิ้วเลย
ทุกห้องพักตกแต่งด้วยภาพจำลองจิตรกรรมฝาผนังของอาจารย์ไพบูลย์ สุวรรณกูฏ และหัวเตียงตกแต่งด้วยผ้าโขมพัสตร์เพราะร้านโขมพัสตร์ร้านแรกเคยตั้งอยู่ในบริเวณโรงแรมนั่นเอง
ห้องที่เราพักได้วิวเมืองมีส่วนของเตียง โต๊ะทำงานอยู่ในโซนเดียวกัน
โซนสำหรับแขวนเสื้อผ้า เก็บรองเท้า วางกระเป๋า ทางโรงแรมมีบริการ Bath Robe 2 ตัว รองเท้าสลิปเปอร์ 2 คู่ ถุงใส่รองเท้ารวมถึงตู้เซฟในลิ้นชัก
ในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ ฝักบัวและ Rain Shower ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและดูแลผิวออร์แกนิคจาก Charcoalogy
Amenity ได้แก่ ชุดแปรงสีฟัน ยาสีฟัน หมวกคลุมอาบน้ำ cotton bud ผ้าขนหนู เป็นต้น
มาลงแช่อ่างอาบน้ำ ตีฟองเพลิน ๆ
Welcome Set เป็นผลไม้และขนมหวานรวมถึง Greeting Card ต่าง ๆ วางรอต้อนรับอยู่ในห้อง ประทับใจมาก ๆ
ทานขนมไป พักผ่อนไป พร้อมชมวิวเมืองแบบนี้
นอกจากนี้ โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ ยังมีห้องพักประเภท Deluxe มีพื้นที่ 30 ตารางเมตร การตกแต่งจะคล้ายกับห้อง Premier แต่ในห้องน้ำจะไม่มีอ่างอาบน้ำให้ ซึ่งพื้นที่ห้องก็ไม่ถือว่าเล็กจนรู้สึกอึดอัดเลย ด้วยการตกแต่งของห้องที่เป็นโทนสีสว่าง จากห้องนี้จะได้อีกวิวเป็นวัด ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ
ห้อง Junior Suite เป็นห้องพักขนาดใหญ่ แบ่งส่วนต่าง ๆ ภายในห้องเป็นสัดส่วน ห้องน้ำมีพื้นที่กว้าง มีอ่างอาบน้ำ รวมไปถึง Amenity ต่าง ๆ ภายในห้องที่จัดเตรียมมาให้อย่างครบถ้วน มินิบาร์ รวมไปถึงมีเครื่องทำกาแฟแคปซูนด้วย
ในห้องพัก Premier Deluxe และ Junior Suite ห้องน้ำจะมีรีโมทควบคุมระบบน้ำหลังทำธุระเสร็จ เป็นของ TOTO จากญี่ปุ่นด้วย
ห้องออกกำลังกายที่นี่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน
ช่วงที่เราไปพัก ตรงกับที่โรงแรมจัด Wedding Preview สำหรับคู่รักที่ต้องการจัดงานแต่ง เป็นห้อง ราชมณเฑียร Grand Ballroom ที่มีการรีโนเวทใหม่ปรับเสาเดิมมาเป็นแบบดิจิตอลโชว์รูป ดูสวยงามทันสมัยมาก ๆ
เดินเล่นกันมาที่บริเวณนี้ สะดุดตากับภาพจิตรกรรมฝาผนัง สอบถามกับทางโรงแรม โซนนี้โรงแรมกำลังรีโนเวทเพื่อทำเป็นล็อบบี้หลัก ซึ่งจะได้ Grand Opening เร็ว ๆ นี้ เสร็จแล้วต้องสวยงามและเป็นอีกจุดไฮไลท์ของโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ แน่นอน
ห้องมณเฑียรทิพย์ ห้องสำหรับจัดพิธีงานหมั้นช่วงเช้า บรรยากาศสไตล์ไทย อลังการ สีสันสดใสด้วยโทนส้ม แดง รอบๆ มีลวดลายจิตรกรรมฝาผนังแบบไทย
พามาชมจุดไฮไลท์ของโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ ด้วยโคมไฟคริสตัลระย้ารูป Autumn Leaf เหมือนบินล่องลอยอยู่ตรงกลางระหว่างทางเดินบันได สามารถมาถ่ายรูปสวย ๆ กันที่จุดนี้ได้
พักโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ ทั้งทีต้องมาทานเมนูเด็ดที่ห้องอาหาร เรือนต้น อยู่ชั้น G ของโรงแรมที่ได้รับรางวัลบิบกูร์มองด์จากมิชลิน ไกด์ ประเทศไทย จากอาหารที่มีเอกลักษณ์และรสชาติโดดเด่น โดยเฉพาะเมนูซิกเนเจอร์อย่างข้าวมันไก่ไหหลำที่กลายเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายคน รวมถึงเมนูอื่นๆ อย่างผัดไทย หอยทอดและติ่มซำต่างๆด้วย เลยคือ ข้าวมันไก่ไหหลำ
บรรยากาศภายในห้องอาหารเรือนต้นผสมผสานสไตล์รีโทร-โมเดิรน์ เข้ากับรายละเอียดดั้งเดิมที่ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นอย่างคอลเลคชั่น เครื่องลายครามแบบจีน มีพื้นที่กว่า 250 ตารางเมตร รองรับแขกได้ 250 ที่นั่ง พร้อมมุมนั่งให้เลือกหลากหลาย ทั้งที่นั่งสำหรับรับประทานอาหารแบบสบายๆ ที่นั่งที่เน้นความเป็นส่วนตัว ไปจนถึงโซนที่เหมาะแก่การสังสรรค์ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีห้องแบบไพรเวทอีก 2 ห้อง ห้องฟังก์ชั่น 3 ห้อง และบาร์สำหรับแฮงก์เอาต์ด้วยส่วนอีกมุมหนึ่ง
เคาน์เตอร์ยาวที่เป็นที่ตั้งของครัวแบบเปิดและสเตชั่นสำหรับปรุงอาหารนั้นได้แรงบันดาลใจจากตลาดแบบไทยๆ
ห้องอาหารเรือนต้นเน้นบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นมิตรผ่านการเลือกใช้วัสดุเรียบง่าย อย่างเช่นกล่องไม้เก่าถูกนำมาดัดแปลงมาเป็นเครื่องประดับตกแต่งผนังได้อย่างชาญฉลาด ผสานกับการตกแต่งแบบโมเดิร์นและโทนสีย้อนยุคแบบเรโทรอย่างเขียวใบโหระพา น้ำเงินเข้มและเหลืองมัสตาร์ด
อาหารของที่นี่เป็นแบบไทย-จีน เมนูคลาสสิคภายใต้แนวคิด “Authentic Thai-Chinese Cuisine”
เมนูที่เราสั่งมาทานได้แก่
เมนูราดหน้าจักรพรรดิ
จัดเต็มด้วยกุ้งแม่น้ำไซต์โต ๆ น้ำราดหน้ากลมกล่ม หอมกระทะ
แถมยังอัดแน่นด้วยเครื่องจากผัก เห็ด และหมึกกรอบชิ้นใหญ่ ๆ อีกด้วย
เมนูผัดไทยเส้นจันท์กุ้งแม่น้ำ ผัดไทยรสชาติคุ้นเคยห่อด้วยไข่ทานคู่กับกุ้งตัวโต ๆ เส้นจันท์เหนียวนุ่ม
มาที่เมนูเด็ดของเรากันค่ะ ชุดข้าวมันไก่ อันเลื่องชื่อ ส่วนตัวชอบที่จัดโดยการแยกข้าวกับไก่ต้มและเลือด เพราะเราสามารถทานไก่เนื้อฉ่ำ ๆ จิ้มกับน้ำจิ้มได้ ซึ่งน้ำจิ้มก็มาด้วยกันถึง 4 แบบ ส่วนตัวชอบข้าวมัน เพราะหอมอร่อยมาก ๆ ข้าวแน่นเต็มถ้วย ชุดนี้ทานได้ 2 คนสบาย ๆ
เมนูกระเพราะปลาน้ำทอง อร่อย น้ำซุปเข้มข้น ได้สีเหลืองทองน่ารับประทาน
ดูเนื้อกระเพราะปลาก่อนกว่าชิ้นยักษ์แค่ไหน กัดได้เต็มปากเต็มคำ นุ่ม แถมยังมีเนื้อปูและเห็ดหอมช่วยเสริมรสชาติอีกด้วย
ถ้าพูดถึงอาหารจีน เราชอบทานเสี่ยวหลงเปามาก เลยไม่พลาดต้องสั่งมาทาน
ขนมผักกาดกุ้ง คล้ายผัดไทย แต่ได้เนื้อสัมผัสจากขนมผักกาดที่ทำจากไชเท้า ทานคู่กับถั่วงอกและกุ้ง จิ้มซีอิ๊วหวาน
เมนูของหวาน signature ของห้องอาหารเรือนต้น เมนูกล้วยไข่เชื่อมทานคู่ไอศกรีมวานิลลา
นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มน่าทานอีกหลากหลาย ห้องอาหารเรือนต้นเปิดทำการทุกวัน ระหว่างเวลา 11.30-22.30 น.
เช้าวันใหม่เราสามารถเลือกมาทานอาหารเช้ากันได้ที่ พระรามสี่ บิสโตร (Phar-Ram IV Bistro) คาเฟ่แบบยุโรปและห้องอาหารแบบเดลี่ในตอนกลางวัน และเปลี่ยนเป็นบาร์ในตอนกลางคืน เหมาะสำหรับเป็นที่แฮงค์เอาท์
เมนูกลางวันมีทั้งแบบ “Grab and Go” หรือ “Stay and Enjoy”
มีอาหารให้เลือกทั้งเพสทรีแบบฝรั่งเศส แซนด์วิชแสนอร่อย สลัดและของหวาน
พร้อมเครื่องดื่มมากมาย โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ช็อกโกแลตร้อนสไตล์ปารีเซียงและ Earl
Grey Apple Cooler ซึ่งเป็นเครื่องดื่มซิกเนเจอร์
เมนูกลางคืน
เป็นแบบยูโรเปียนที่มีกลิ่นอายแบบฝรั่งเศส
สร้างเสริมบรรยากาศยิ่งขึ้นด้วยไวน์ที่คัดสรรมาอย่างดี
รวมถึงค็อกเทลก่อนและหลังอาหารที่มีให้เลือกหลากหลาย
อาหารเช้าแบบ a la carte เราสั่งทั้งออมเลตและไข่เบเนดิกท์ เสริฟพร้อมกับครัวซองต์อุ่น ๆ ทานคู่กับแยมหรือเนย
คาปูชิโน่ร้อน ๆ ฟองนุ่ม ๆ เพิ่มพลังให้มื้อเช้าสดใส
หลังทานอาหารเช้าเสร็จเราก็ยังนั่งเล่นหามุมสวย ๆ ถ่ายรูปได้ หรือจะสั่งชา Earl Gray จาก TWG พร้อมชมบรรยากาศรอบ ๆ
พระรามสี่ บิสโตร (Phar-Ram IV Bistro) อยู่ที่ชั้น G ของโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์
กรุงเทพฯ ติดกับห้องอาหารเรือนต้น อยู่ทางฝั่งถนนพระราม 4 ใกล้กับสถานี MRT
สามย่าน ทางออก 1 รองรับลูกค้าได้ 34 ที่นั่ง
คาเฟ่/เดลี
เปิดบริการทุกวันระหว่างเวลา 7.00 – 17.00 น.
บิสโทร/ไวน์บาร์
เปิดบริการทุกวันระหว่างเวลา 17.00 – 23.00 น.
โซนสระว่ายน้ำของโรงแรมอยู่ที่ชั้น 3 เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้าเป็นต้นไป
ศาลาทรงไทยที่เข้ากันกับตึกสมัยสมัย
การเดินทาง
โรงแรมมีทางเข้าออก 2 ทาง คือ ทางถนนสุรวงศ์และถนนพระราม 4 ตั้งอยู่ห่างจากสถานี
MRT สามย่าน โดยใช้เวลาเดินประมาณ 3 นาที ห่างจากสถานี BTS ศาลาแดง
โดยใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที
สำหรับคนที่นำรถมาสามารถมาจอดรถที่โรงแรมได้เลยมีที่จอดรถสะดวกมาก
โปรโมชั่น
STAY & DINE จองและเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เมษายน 2565
- พัก Deluxe Room ราคา 3,000 สุทธิต่อคืน
- ฟรีอัพเกรดไปห้องพรีเมียร์ พร้อมอ่างแช่ตัว
- เช็คอินได้ตั้งแต่ 08.00 น. เช็คเอาท์ได้ถึง 20.00 น.
- เครดิตรับประทานอาหารมูลค่า 1,500 บาทต่อวัน
ได้มาพักผ่อนที่โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ ตอบโจทย์การพักผ่อนที่สะดวกสบายในบรรยากาศที่มีกลิ่นอายความเป็นไทยยุคก่อนและความทันสมัย เรื่องอาหารก็ไม่ผิดหวัง รสชาติอร่อยถูกปาก อีกทั้งยังมีมุมคาเฟ่สไตล์ฝรั่งเศส มีมุมถ่ายรูปให้ได้เพลิดเพลินกับการมาพักผ่อน พนักงานต้อนรับบริการดี ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ตลอด รวมไปจนถึงทำเลที่ตั้งของโรงแรมที่เดินทางสะดวก ติดถนนถึง 2 สายทั้ง ถนนสุรวงศ์ และถนนพระราม 4 เดินทางสะดวกเพราะเป็นทางผ่านของรถสาธารณะหลายสายรวมไปถึงใกล้รถไฟฟ้า MRT อีกด้วย เหมาะสำหรับมา Staycation พักผ่อนใจกลางกรุง เดินทางสะดวกทั้งคนที่มีรถและไม่มีรถ อยากชวนเพื่อน ๆ ลองไปพักผ่อนกับโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ โฉมใหม่แห่งนี้กันนะครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
54 ถนนสุรวงศ์ บางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์ : +66 (0) 2 233 7060
เว็บไซต์
: www.montienbangkok.com
Facebook : https://www.facebook.com/montiensurawongbkk
Line : @montienbangkok
Instagram :
montiensurawongbkk
ติดตามพวกเราได้ที่
Facebook:
https://www.facebook.com/laewtaetaw
Website: https://www.laewtaetaw.com